RSS

แหล่งท่องเที่ยวมหัศจรรย์ 7 ดาว

แหล่งท่องเที่ยว 7 ดาว
ดาวดวงที่ 1
จองพารา เทศกาลแห่งสีสัน วันแห่ปราสาทไม้ จ.แม่ฮ่องสอน

วันออกพรรษางานประเพณียิ่งใหญ่ของชาวไต วันที่ปราสาทไม้จำลองจะถูกจุดเทียนประดับไฟนับหมื่นนับแสนดวงงดงามราวกับเมืองสวรรค์ประเพณีนี้ถือกำเนิดมาจากความเชื่อของชาวพุทธเชื้อสายชาวไตว่า ในวันนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จกลับลงมาสู่โลกมนุษย์จากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากเสด็จไปเทศนาโปรดพระมารดา ผู้คนจึงมีศรัทธาพากันสักการบูชาด้วยการสร้างปราสาทจำลอง ทำด้วยโครงไม้ไผ่ประดับประดาสวยงาม และตามไฟในยามค่ำคืนกันทุกบ้านเรือน วัดวาอารามต่างๆ ก็จะจุดผางจุดเทียนสว่างไสว นับเป็นเทศกาลแห่งสีสันวันออกพรรษาที่หาดูได้ที่นี่แห่งเดียวในเมืองไทย
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาราว 18.45 น. หรือใกล้ค่ำ
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ช่วงวันออกพรรษา หรือวันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันแรม 8 ค่ำ เดือน 11
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : หนองจองคำ หน้าวัดจองคำ และวัดจองกลาง
เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.เชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 ถึง อ.แม่แตงต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 1095 ผ่านอ.ปาย อ.ปางมะผ้า สู่ จ.แม่ฮ่องสอนในเมืองใช้ถนนสิงหนาทบำรุงและถนนประดิษฐ์จองคำสู่หนองจองคำ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร.053612-982-3


ดาวดวงที่ 2
คืนมหัศจรรย์นอนนับดาวที่มอหินขาว เสาหินมหัศจรรย์ จ.ชัยภูมิ

เสาหินยิ่งใหญ่ต้องยกให้ “มอหินขาว” จังหวัดชัยภูมิ ใครได้นอนนับดาวที่นี่จะรู้ว่าพลังมหัศจรรย์บนฟากฟ้าของดาวล้านดวงมีจริง กลุ่มเสาหินสูงใหญ่เรียงรายที่อยู่บนสันเขาภูแลนคา จังหวัดชัยภูมิ ก่อกำเนิดทางธรณีวิทยามาจากแรงยกตัวของเปลือกโลก อีกทั้งแสงแดด จนผุกร่อนมีรูปทรงแปลกตา ณ ยามราตรีเมื่อเหล่าดวงดาวนับล้านดวงโคจรอยู่เหนือกลุ่มหินมหัศจรรย์เหล่านี้ เกล็ดเพชรของทางช้างเผือกเหนือฟากฟ้าก็จะระยิบระยับราวกับอยู่ใกล้แค่เอื้อม
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลา 23.00 น. ถึงราวตี 2
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ฤดูร้อนราวเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : กลุ่มหินมอหินขาวด้านทิศตะวันออก และตะวันตก
เส้นทางการเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 และ 2 ถึง อ.สีคิ้ว ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 201 ถึง จ.ชัยภูมิ แล้วใช้เส้นทางสู่น้ำตกตาดโตนก่อนถึงเล็กน้อยมีทางแยกซ้ายเส้นทางสู่มอหินขาว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานนครราชสีมา โทร. 044-213-030,044-213-666


ดาวดวงที่ 3
ไหลเรือไฟเทศกาลจุดไฟลอยน้ำโขง จ.นครพนม

หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียวที่มหานทีแม่โขง เขาจุดเรือไฟปล่อยลอยไปกับสายน้ำตระการตาด้วยแสงไฟ ลุกโชติช่วงยามราตรีทั้งโลกหาดูได้ที่นี่ที่เดียว แม่น้ำโขง มหานทีแห่งชีวิตซึ่งเดินทางมายาวไกล ช่วงปลายฝนต้นหนาว สิ้นฤดูเก็บเกี่ยว ผู้คนเมืองนครพนมมีวิถีประเพณีปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านานในเทศกาลออกพรรษา ด้วยการทำ “เรือไฟ” ประดับประดาสวยงามตระการตาด้วยสีสันและพลุไฟ ก่อนจะจุดไฟให้โชติช่วงเรืองรอง ปล่อยไหลล่องเป็นขบวนเรือไฟไกลสุดแรงศรัทธา เพื่อสักการบูชาพระพุทธเจ้า ในวันเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ลงมาโปรดมนุษย์โลก
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงหัวค่ำของคืนวันออกพรรษา
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : คืนวันออกพรรษา หรือวันขึ้น 15ค่ำ เดือน 11

จุดชมวิวที่ดีที่สุด : ริมแม่น้ำโขงหน้าเมืองนครพนม
เส้นทางการเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 และ 2 ถึง จ.ขอนแก่น ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 209 และ 213 ถึง จ.สกลนครต่อด้วย ทางหลวงหมายเลข 22 สู่ จ.นครพนม และทางหลวงหมายเลข 212 เลียบริมแม่น้ำโขง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :ติดต่อที่ ททท.สำนักงานนครพนม โทร.042-513-490-1

ดาวดวงที่ 4
อลังการดาวอยู่บนดิน เทศกาลแห่ดาว จ.สกลนคร

ค่ำคืนวันฉลองเทศกาลคริสต์มาส คนเมืองสกลนครเขาจินตนาการ ดาวบนท้องฟ้า เอามาแห่อยู่บนดิน เป็นเทศกาลรื่นเริง สนุกสนานกว่าที่ไหนในเมืองไทย ตำบลท่าแร่ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร คือบ้านของชุมชนชาวคริสต์คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วันคริสต์มาสของที่นี่ ชาวคริสต์จะประดิษฐ์ดวงดาวกระดาษขนาดน้อยใหญ่ประดับประดาด้วยดวงไฟหลากสีสัน นำไปตกแต่งขบวนรถ ประดับประดายามราตรีอย่างสวยงาม และแห่เฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ สนุกสนาน เรียกว่า “เทศกาลแห่ดาว” นับได้ว่าเป็นขบวนแห่เหนือจินตนาการ ซึ่งเล่าขานกันว่างามที่สุดในเมืองไทย
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงหัวค่ำของคืนวันคริสต์มาส
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : วันคริสต์มาสของทุกปี
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร

เส้นทางการเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 และ 2 ถึง จ.ขอนแก่น ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 209 และ 213 ถึงตัว จ.สกลนคร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานนครพนม โทร.042-513-490-1

ดาวดวงที่ 5
ที่สุดความโรแมนติกพระจันทร์วันเพ็ญขึ้นที่อ่าวประจวบฯ จ.ประจวบคีรีขันธ์
พระจันทร์วันเพ็ญขึ้นที่อ่าวประจวบฯ ความโรแมนติกที่ซ่อนไว้ในหนึ่งเดือนมีเวลาเพียง 2 วันเท่านั้น คือในวันขึ้น 15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ อ่าวประจวบฯ ทอดยาวเป็นวงโค้ง งดงามด้วยทัศนียภาพอันมีเรื่องราวตามตำนานพื้นบ้าน “ตาม่องลาย” ซึ่งกล่าวถึง การกำเนิดของภูเขาและเกาะน้อยใหญ่ที่เรียงรายอยู่ในอ่าวประจวบฯ ไม่ว่ามุมไหนๆ ใครมองออกไปกลางอ่าว ก็จะพบว่าจินตนาการของคนโบราณนั้นสุดลึกล้ำ แต่เรื่องราวเหนือจินตนาการของพระจันทร์เพ็ญกลางอ่าวแห่งนี้ คือสุดยอดความโรแมนติกของเมืองไทย ที่คุณจะไม่มีวันลืม ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำ คืนวันขึ้น 15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ฤดูร้อนราวเดือนมีนาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : อ่าวประจวบฯ บริเวณค่อนมาทางกองบินน้อยที่ 5

เส้นทางการเดินทาง : จากกรุงเทพฯ เดินทางโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 35 ต่อด้วยหมายเลข 4 ถึงจ.ประจวบฯ แยกซ้ายทางหลวงหมายเลข 326 ไปถึงถนนเลียบชายทะเล เลี้ยวขวาไปทางกองบินน้อยที่ 5 มุมมองจะดีที่สุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โทร.032-513-885,032-513-854

ดาวดวงที่ 6

ตระการตา พิพิธภัณฑ์มังกรทองล้ำค่า หนึ่งเดียวในเมืองไทย จ.สุพรรณบุรี

ที่เดียวในเมืองไทย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกออกแบบ สร้างรูปร่างให้เป็นมังกร ยามใกล้ค่ำมังกรตัวนี้จะกลายร่างเป็นมังกรทองล้ำค่า ถ้าไม่ไป ไม่เห็น ไม่รู้ คงไม่เชื่อ สุพรรณบุรี เมืองที่น่าศึกษาทั้งเรื่องราวครั้งประวัติศาสตร์ความเจริญรุ่งเรือง ตลอดจนความอุดมสมบูรณ์ พืชพันธุ์ธัญญาหารไม่เป็นรองที่ไหนในเมืองไทย ผู้คนยิ่งใหญ่ความคิดกว้างไกล สร้างพิพิธภัณฑ์เป็นรูปมังกรตัวยักษ์ทะยานฟ้า พาเรื่องราวของเผ่าพันธุ์คนจีนมาให้ผู้คนรู้จักภูมิใจในที่มาของตน จะกี่วันกี่เดือนกี่ปีมังกรตัวนี้ก็ยังผงาด ได้ไม่มีเสื่อมสูญ แต่หากถามถึงความงาม ให้ไปดูตอนใกล้ค่ำ เพราะมังกรตัวนี้แปลงร่างทุกวัน เป็นมังกรทองล้ำค่าไม่น่าเชื่อ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาราว 18.45 น. หรือช่วงโพล้เพล้ใกล้ค่ำ
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ราวเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : บนเนินสูงด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของตัวมังกร
เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.นนทบุรี ใช้ถนนรัตนาธิเบศร์เดินทางถึงบางใหญ่ ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 340 ถึงตัว จ.สุพรรณบุรีเลี้ยวซ้ายทางหลวงหมายเลข 321 ข้ามแม่น้ำสุพรรณบุรีแล้วแยกขวาสู่ศาลหลักเมือง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานสุพรรณบุรี โทร.035-536-030,035-535-789

ดาวดวงที่ 7

อลังการมรดกโลก เมืองเก่าอยุธยา ยามราตรี จ.พระนครศรีอยุธยา

อยุธยาเมืองมรดกโลกยามเมื่อแสงแห่งวันสิ้นไป โบราณสถานซึ่งประดับด้วยแสงไฟ คือความงามล้ำลึกเรืองรอง อยุธยา ราชธานีในประวัติศาสตร์ชาติไทยยาวนานถึง 417 ปี มรดกโลกแห่งนี้อลังการด้วยโบราณสถานอันทรงคุณค่างดงาม ผสมผสานด้วยวิถีชีวิตผู้คนกับความเป็นเมืองประวัติศาสตร์อย่างลงตัว ทุกวันเมื่อแสงสุดท้ายแห่งเวลาสิ้นลง แสงไฟประดับประดา ตามโบราณสถานต่างๆ จะค่อยๆ เจิดจรัสราวกับเนรมิตให้ราชธานีศรีอยุธยาเรืองรองขึ้นมาอีกครั้งมือนออดีตอันรุ่งโรจน์

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาราว 18.45 น. หรือโพล้เพล้ใกล้ค่ำ
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ราวเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : วัดพระศรีสรรเพชญ์

เส้นทางการเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 และ 32 ถึง จ.พระนครศรีอยุธยา แยกซ้ายทางหลวงหมายเลข 309 ข้ามแม่น้ำป่าสักสู่ตัวเมืองเก่าเขตโบราณสถาน สำหรับวัดไชยวัฒนาราม อยู่นอกเกาะเมืองด้านตะวันตก

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :ติดต่อที่ ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา โทร.035-246-076-7











1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ฝากทุกๆคนนะค่ะไปชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแค่เราไปให้ถูกที่ถูกเวลาเท่านี้เราก็จะได้ชมสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆที่เราไม่เคยพบเห็น เที่ยวไทยครึกครืน เศรษฐกิจไทยคึกคักนะค่ะ