RSS

แหล่งท่องเที่ยวมหัศจรรย์สิบสองเดือน

แหล่งท่องเที่ยวมหัศจรรย์ 12 เดือน



เดือนมกราคม
สุดยอดเส้นทาง ชมนางพญาเสือโคร่ง จ.เชียงใหม่

ฤดูหนาวดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานสะพรั่งทั้งขุนเขา ฤดูโรแมนติกนี้ หนึ่งปีมีหนเดียว สวยสุดอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ความงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง (Prunus cerasoides) อยู่ที่ยามเมื่อต้นทิ้งใบแล้วพากันออกดอกสะพรั่งเป็นสีชมพู สวยสดใสคล้ายกับดอกซากุระของญี่ปุ่น มักชอบขึ้นอยู่ ตามพื้นที่ภูเขาสูงในภาคเหนือ มีแหล่งที่สำคัญไปดูได้อยู่ หลายแห่ง เช่น ดอยสันป่าเกี๊ยะ
ดอยอินทนนท์ ดอยขุน แม่ยะ และดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ หนาวนี้ไม่ต้องไปไกล
ถึงไหน พลาดไม่ได้ต้องไปให้เห็นกับตาว่าซากุระเมืองไทยมีจริงที่เชียงใหม่
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : 07.00 - 09.00 น. ของทุกวัน
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : ดอยสันป่าเกี๊ยะ ดอยอินทนนท์ ดอยขุนแม่ยะ และดอยอ่างขาง
เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.เชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1004 ไปดอยขุนช่างเคี่ยนทางหลวงหมายเลข 1095 จาก อ.แม่แตง ไปดอยขุนแม่ยะ ทางหลวงหมายเลข 107 และ 1249 ไปดอยอ่างขาง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 053-248604,053-248607

บึงสวรรค์ของนกน้ำนับแสนตัว บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์


ฤดูหนาวราวเดือนมกราคม บึงบอระเพ็ด คือ แหล่งดูนกที่ดีที่สุด ด้วยนกน้ำจำนวนมากจะ
มาอาศัยอยู่เป็นบึงน้ำบึงสวรรค์แห่งสรรพชีวิต ฤดูกาลเป็นตัวกำหนดให้นกเหล่านี้รู้เองว่า เมื่อถึงวันเวลาดูหนาวมาเยือนยังซีกโลกเหนือ อาหารที่จำกัดกับอากาศหนาวเย็น ทำให้นกนับแสนนับล้านตัวต้องอพยพมุ่งหน้าลงใต้ไปยังแหล่งต่างๆ ที่พวกมันเคยไป ปริศนาคือว่า พวกมันจดจำเส้นทางบินกลับมายังที่เก่านั้นได้อย่างไร ไม่เคยพลาด และนอกจากจะเป็นแหล่งชีวิตดังกล่าว บึงบอระเพ็ดยังงดงามด้วยทะเลบัวสีชมพูบานสะพรั่งก่อนเก้าโมงเช้าของทุกวัน ซึ่งคุณจะไม่เคยพบเห็นได้จากที่อื่นที่สวยงามเท่านี้
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาเช้าราว 07.00 - 09.00 น. และเวลาเย็นยามพระอาทิตย์ตกดิน
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : เดือนมกราคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : จุดชมวิวที่ดีที่สุดกลางบึงบอระเพ็ด ที่รวมฝูงนกเป็ดน้ำนานาชนิด
เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.นครสวรรค์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 3004 มุ่งไปทางทางหลวงหมายเลข 3004 มุ่งไปทางอ.ท่าตะโก ระยะทาง 20 กิโลเมตร แล้วมีทางแยกซ้ายเข้าสู่อุทยานนกน้ำบึงบอระเพ็ดอีก 4 กิโลเมตร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานอุทัยธานี โทร. 056-514-982

เดือนกุมภาพันธ์

ชมพูภูคา แหล่งเดียวที่พบได้บนดอยภูคา จ.น่าน

ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นเดือนดียวที่ดอกชมพูภูคาจะบานบนดอยภูคา จังหวัดน่าน คุณทราบไหมว่า นี่คือที่เดียวในโลกซึ่งสามารถพบเห็นดอกไม้ชนิดนี้ ชมพูภูคา (Bretschneidera sinensis) พันธุ์ไม้ที่ได้ชื่อว่า หายากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง เคยพบในมณฑลยูนนานของจีน ก่อนจะสูญพันธุ์ไป และมีการค้นพบอีกครั้งในประเทศของจีน ก่อนจะสูญพันธุ์ไป และมีการค้นพบอีกครั้งในประเทศโลกเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ประเทศไทย ในรอบหนึ่งปีชมพูภูคานี้จะออกดอกสีชมพูเป็นช่อสวย สดใสฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้น
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาเช้า
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : เดือนกุมภาพันธ์
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : จุดชมที่อุทยานฯ จัดทำไว้โดยเฉพาะ
เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.น่าน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1080 ถึง อ.ปัว ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 1256 สู่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานแพร่โทร. 054-521 118-9,054-521-127

ถนนดอกไม้ทองกวาวบาน ตระการตา จ.พะเยา

เมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์จากอำเภอ ดอกคำใต้ไป อำเภอจุน จังหวัดพะเยา คือเส้นทางซึ่งสวยที่สุด จนแทบไม่น่าเชื่อว่า จะมีเส้นทางเส้นนี้จริงอยู่ในเมืองไทย บนถนนสายนี้มีสิ่งที่ดีที่สุด การได้เห็นดอกทองกวาวบาน เป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร นับจากกิโลเมตรที่ 5 เป็นต้นไป โดยในฤดูนี้สองข้างทางของถนนสายธรรมดาๆ จะกลายเป็น ถนนลายดอกไม้บานที่มีสีสันตระกานตาอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นคือ ดอกทองกวาว (Buta monospema) สีแสดซึ่งมองเห็นเด่นชัดไปไกลสุดสายตา เส้นทางนี้ยังสามารถเดินทางต่อไปขึ้นภูชี้ฟ้าได้ และในฤดูเดียวกันนี้บนภูชี้ฟ้า ก็มีดอกเสี้ยว กำลังบานรอคุณอยู่ด้วยเช่นกัน
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเช้าและเย็น
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : เดือนกุมภาพันธ์
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : ประมาณกม.ที่ 5 จาก อ.ดอกคำใต้ ไป อ.จุน
เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.พะเยา ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 และ 1021 สู่ อ.ดอกคำใต้ แล้วมุ่งหน้าไปทาง อ.จุนเลย อ.ดอกคำใต้ไปราว 4 กิโลเมตร จะเริ่มมีต้นทองกวาวขึ้นเรียงรายสองข้างทางรวมระยะทางราว 20 กิโลเมตร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานเชียงรายโทร.053-717-433,053-744-674-5


เดือนมีนาคม

เกาะห้องมหัศจรรย์ธรรมชาติในป่าเกาะ จ.กระบี่

ในพื้นที่ “ป่าเกาะ” ของจังหวัดกระบี่ เกาะที่สวยที่สุด คือ เกาะห้อง ซึ่งมีหาดทรายสวยที่สุดฝูงปลามากมายที่สุด และทะเลในมหัศจรรย์ที่สุด เกาะห้องเป็นเกาะใหญ่หนึ่งในป่าเกาะ จังหวัดกระบี่ ที่มีเกาะอยู่มากมายนับร้อยเกาะ เกาะแห่งนี้มีจุดเด่นไม่เหมือนใครด้วยชายหาดด้านหน้าเกาะที่โค้งเกือบจะเป็นครึ่งวงกลม ร่มรื่นด้วยแนวป่าชายหาดด้านหลัง น้ำทะเลที่นี่เป็นสีเทอคอยส์ชวนให้ลงแหวกว่ายไปกับฝูงปลาแสนเชื่อง และทุกเดือนมีนาคม เกาะแห่งนี้จะเป็นที่รวมของฝูงปลาขนาดเล็กมากมายที่มาชุมนุมกันอย่างน่าอัศจรรย์ รวมไปถึงทะเลใน ที่ซ่อนไว้ซึ่งมุมมองอันวิเศษสุดอีกด้านหนึ่งของเกาะ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : 10.00-11.00น.และ14.00-16.00น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : ชายหาดด้านหน้าและทะเลในซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือ
เส้นทางการเดินทาง : จากตัว จ.กระบี่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4204 ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 4203 ถึง อ่าวพระนางแล้วลงเรือที่อ่าวพระนางไปเกาะห้อง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานกระบี่ โทร.07-622-163

ชมทะเลสวยกับถิ่นปลาการ์ตูน ที่หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา

หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีปะการังน้ำตื้นที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย เป็นแหล่งดำน้ำชมปลาการ์ตูน และเต่าทะเลที่หาดูได้ยาก หมู่เกาะสุรินทร์ ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 2 เกาะคือ เกาะสุรินทร์เหนือและสุรินทร์ใต้ ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามันห่างจากท่าเรือคุระบุรี จังหวัดพังงา ราวชั่วโมงครึ่ง โดยการเดินทางด้วยเรือเร็ว นอกจากน้ำทะเลใส หาดทรายขาว ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ที่นี่ยังเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวเลเผ่ามอเก็น เป็นบ้านแสนสวยของปลาการ์ตูนที่พบมากบริเวณอ่าวช่องเขาขาด นอกจากนี้ที่เกาะบอน หมู่เกาะสิมิลันซึ่งอยู่ใกล้เคียง ยังเป็นแหล่งดูกระเบนราหูที่ดีที่สุด

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด :10.00-11.00น.และ 14.00-16.00 น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : ดูปลาการ์ตูนที่ช่องเขาขาดดูเต่าทะเลที่เกาะตอรินลา

เส้นทางการเดินทาง :จาก จ.ชุมพรใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ถึง อ.หลังสวนแยกทางหลวงหมายเลข 4006 แล้วมาเจอกับทางหลวงหมายเลข 4 อีกครั้งที่บ้านราชกรูด มุ่งหน้าสู่ อ.คุระบุรีท่าเรืออยู่ก่อนถึงตัวอำเภอ 6 กิโลเมตร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :ติดต่อที่ ททท.สำนักงานกระบี่โทร.075-622-163

เดือนเมษายน
สามพันโบก มหัศจรรย์แห่งภูผาใต้มหานทีแม่โขง จ.อุบลราชธานี

ทุกฤดูแล้งเมื่อแม่น้ำโขงลดระดับลง “โบก” นับร้อย นับพัน ที่จมอยู่ใต้ท้องน้ำก็ผุดโผล่ขึ้นกลายมาเป็นประติมากรรมหินผาน่าพิศวงที่เรียกว่า “สามพันโบก” ภูผาหินใต้น้ำเหล่านี้จะจมอยู่ใต้กระแสอันเชี่ยวกรากของแม่น้ำโขง มาตลอดช่วงเวลาฤดูฝน และเปลี่ยนแปรรูปลักษณ์ของมันไปในทุกวินาทีที่พลังของสายน้ำทำงานไม่เคยหยุด กลายเป็นหลุมกุมภลักษณ์หรือที่ชาวอีสานเรียกว่า “โบก” ขนาดต่างๆ กัน ราวกับมหัศจรรย์นครแห่งหินผาใต้บาดาล อีกทั้งหน้าผาใต้น้ำที่กว้างใหญ่เกินกว่าใครจะจินตนาการได้ ที่สำคัญหากมาเที่ยวชมในเดือนเมษายนจะได้พบ “แมงกะพรุนน้ำจืด” โผล่ขึ้นมาตามโบกเหล่านี้ให้เห็นอีกด้วย

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเช้าก่อน 08.00 น.ชมแมงกะพรุน เย็นชมพระอาทิตย์ตก
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : กลุ่มโบกริมน้ำโขงผาแคนยอนและหลุมแมงกะพรุน


เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.อุบลราชธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 2050 ผ่าน อ.ตระการพืชผล ถึงบ้านห้วยยาง แยกขวามือทางหลวงหมายเลข 2337 ถึงหาดสลึง เลี้ยวขวาทางหลวงหมายเลข 2112 อีกราว 7 กิโลเมตรถึง สามพันโบก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานอุบลราชธานี โทร.045-243-770,045-250-714

ตระการตาลานผีเสื้อ ในป่าแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
ผืนป่าแก่งกระจาน คือที่รวมพืชพันธุ์สัตว์ป่านานาชนิด รวมทั้งผีเสื้อกว่า 200 ชนิด ที่พบได้มากมายในช่วงฤดูร้อนตามโป่งต่างๆ ผืนป่าแก่งกระจาน ได้ชื่อว่าเป็นป่าดงดิบผืนกว้างใหญ่ที่สุดของภาคกลาง อุดมสมบูรณ์ด้วยความหลากหลายทางชีวภาพทั้งพืชและสัตว์ ทุกฤดูร้อนเมื่ออากาศร้อนจัดจนแหล่งน้ำเริ่มแห้งเหือด บรรดาเหล่าผีเสื้อนานาชนิดจะพากันมาหากินเกลือตามดินโป่งหรือแหล่งน้ำแฉะๆมากมาย และบางครั้งอาจพบการอพยพของฝูงผีเสื้อนับแสนตัวอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญมีนกหายาก เช่น นกกะลิงเขียดหางหนาม เป็นต้น
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเช้าแสงแดดอ่อน ราว 8.00 -10.00 น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ปลายเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : กม.10-18ขึ้นเขาพะเนินทุ่ง และหลังแคมป์บ้านกร่าง

เส้นทางการเดินทาง : จากกรุงเทพฯ เดินทางโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 35 ต่อด้วยหมายเลข 4 ถึง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 3499 สู่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ต่อด้วยเส้นทางภายในอุทยานฯ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานเพชรบุรี โทร. 032-471-005-6

เดือนพฤษภาคม

เที่ยวน้ำหนาวฤดูฝน ไปยลกล้วยไม้ยักษ์เอื้องบุษราคัม จ.เพชรบูรณ์

น้ำหนาว รู้จักกันดีว่าเป็นป่าเปลี่ยนสีที่สวยที่สุดยามต้นฤดูหนาว แต่ใครเล่าจะรู้ว่า ถ้าไปน้ำหนาวต้นฝน คุณจะได้ยลกล้วยไม้ยักษ์มหัศจรรย์ในโลกที่เขียวขจี ป่าน้ำหนาวเป็นป่าผืนใหญ่ในเทือกเขาเพชรบูรณ์ มากมายด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ จากสังคมป่าดงดิบป่าเบญจพรรณ ป่าสน จนถึงสังคมทุ่งหญ้าที่มีความน่าสนใจทั้งชีวิตพืชและสัตว์ป่าหายาก ช่วงต้นฤดูฝนบนภูกุ่มข้าวซึ่งมีทุ่งหญ้าและป่าสนสวยที่สุดของน้ำหนาว ที่มีสิ่งมหัศจรรย์ซ่อนอยู่ คือ กล้วยไม้ยักษ์เอื้องบุษราคัม (Eulophia flava ) ซึ่งความสูงใหญ่ของมันอาจสูงได้เกิน 2 เมตร ช่อดอก เหลืองอร่าม ราวบุษราคัมตามชื่อเรียก
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาเช้าก่อน 09.00 น
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : บริเวณเชิงภูกุ่มข้าว ที่สามารถชมวิวและดูนกได้ด้วย

เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.เพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ถึง อ.หล่มสัก เลี้ยวขวาทางหลวงหมายเลข 12 ถึงกิโลเมตรที่ 50 ที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานพิษณุโลก โทร.055-252-742-3,055-259-907


ชมกระทิงฝูง กลางป่าดงพญาเย็น จ.นครราชสีมา


แหล่งเดียวในเมืองไทยเห็นวัวกระทิงได้ง่ายสุด คือ ที่กลุ่มป่าดงพญาเย็นรอยต่อ 5 จังหวัด นครราชสีมา นครนายก สระบุรี ปราจีนบุรี และสระแก้ว ป่ามรดกโลกผืนล่าสุดนี้ คือกลุ่มป่าดงพญาเย็นในอดีตซึ่งวันนี้กลายมาเป็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทับลานปางสีดา ตาพระยาและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่หลังจากฝนแรกในเดือนเมษายนผ่านไปหญ้าอ่อนก็จะแตกใบ นี่คือวันเวลาที่ดีที่สุด ที่กระทิงจะออกมาหากินตามทุ่งหญ้า โป่งสัตว์และแหล่งน้ำซับ แหล่งดูกระทิงวันนี้ที่เห็นง่ายที่สุด คือ คลองปลากั้ง เขาแผงม้า จังหวัดนครราชสีมา และตาพระยา จังหวัดสระแก้ว
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : 17.00 น. ถึงพลบค่ำ
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ต้นฤดูฝนราวเดือนพฤษภาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : จุดชมกระทิงคลองปลากั้ง เขาแผงม้า และตาพระยา

เส้นทางการเดินทาง : จาก อ.ปากช่อง ใช้ทางหลวงหมายเลข 2090 หน้าด่านขึ้นเขาใหญ่มีทางแยกซ้ายมือไป อ.วังน้ำเขียว ไปต่ออีกราว 45 กิโลเมตร ถึงหน่วยพิทักษ์ป่าคลองปลากั้ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานนครราชสีมา โทร.044-213-030,044-213-666

เดือนมิถุนายน

เที่ยวชมผืนพรมทะเลหญ้าเขียวขจีสวยที่สุดในเมืองไทยทุ่งแสลงหลวง จ.เพชรบูรณ์

ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่และสวยที่สุดในเมืองไทยต้องไปดูที่หน่วยพิทักษ์ป่าหนองแม่นา ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดเพชรบูรณ์ ต้นฤดูฝนที่นี่ หญ้าทั้งทุ่งกลายเป็นผืนพรมเขียวมรกตได้เหลือเชื่อ ทุ่งแสลงหลวง เป็นทุ่งหญ้าสะวันนาที่สวยงามที่สุด เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูฝนราวเดือนมิถุนายน โดยจะเขียวขจีประดุจผืนพรมธรรมชาติ เป็นฤดูกาลแห่งสรรพชีวิตโดยเฉพาะดอกกระเจียวขาว (Curcuma parviflora) นับหมื่นดอกจะแทงช่อขึ้นรับกับหยาดฝน นอกจากนั้นทุ่งนางพญาก็เป็นเส้นทางขี่จักรยานที่มีสภาพธรรมชาติดีที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย อยู่ไม่ไกลทุ่งแสลงหลวงและในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ในลำน้ำเข็กยังมีแมงกะพรุนน้ำจืดให้ชมอีกด้วย

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาเช้าราว 07.00 น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ฤดูฝนเดือนมิถุนายนของทุกปี
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : จุดชมวิวเส้นทางเข้าทุ่งนางพญา และบริเวณรอบที่พัก

เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.เพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 ถึงแยกไร่บีเอ็น เลี้ยวขวาทางหลวงหมายเลข 2196 และ 2325 ไปยังบ้านหนองแม่นา ที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ป่าหนองแม่นา จ.เพชรบูรณ์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานพิษณุโลก โทร.055-252-742-3,055-259-907





เปราะภูในสายหมอก ที่แปกดำ ภูหลวง จ.เลย





มนต์ขลังของฤดูฝนบนภูหลวงนั้น คือ สายหมอกฉ่ำเย็น นี่เป็นเวลาของดอกเปราะภู สีชมพู ซึ่งจะพากันบานสะพรั่งทั้งผืนป่า ล่วงถึงต้นฤดูฝนราวเดือนมิถุนายน บนภูหลวง จังหวัดเลย นั่นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของดอกไม้ต้นฤดูฝน ซึ่งพากันผลิดอกสวยงามขึ้นอยู่ตามลานหิน เช่น โคกนกกระบาและลานสุริยันแต่ไกลออกไปในป่าสนบริเวณที่เรียกว่า “แปกดำ” เดินเท้าถึงได้ในเวลาชั่วโมงเศษๆ ที่นั่นดอกเปราะภูสีชมพู (Caulokaempferia violacea) สวยสดกำลังพากันออกดอกสะพรั่งทั้งผืนป่า มีเวลาสวยที่สุดอยู่แค่เดือนเดียวพลาดปีนี้ ต้องรอปีหน้าถึงจะมีใหม่โอกาสอีกครั้ง

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : เวลาที่มีหมอกลงส่วนมากเป็นช่วงเช้า
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : กลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : ป่าสนบริเวณที่เรียกว่า “แปกดำ”

เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.เลย ใช้ทางหลวงหมายเลข 203 สู่ อ.ภูเรือ ก่อนถึงบริเวณบ้านสานตมมีทางแยกซ้ายเข้าสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงด้านโคกนกกระบาระยะทางราว 28 กิโลเมตร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานเลยโทร 042-812-812

เดือนกรกฎาคม

ภูหินร่องกล้า มหัศจรรย์ลานหินแตกน้ำตกหมันแดง แหล่งลิ้นมังกรสีชมพู จ.พิษณุโลก

ฤดูฝนบนภูหินร่องกล้า คือวันเวลาวิเศษสุดในธรรมชาติ ทั้งพืชพันธุ์นานา โลกของเฟิร์นเขียวขจี และแหล่งกล้วยไม้ลิ้นมังกรสีชมพู ที่น้ำตกหมันแดง ภูหินร่องกล้า คือความโดดเด่นทางธรณีวิทยา ซึ่งไม่มีที่ใดเหมือนในเมืองไทย เป็นแหล่งรวมของความหลากหลายทางชีวภาพสูงค่า ในช่วงฤดูฝนนอกจากลานหินแตกลานหินปุ่มจะสวยที่สุดในรอบปี น้ำตกหมันแดง คือ อีกหนึ่งความงามของภูหินร่องกล้าซึ่งพบกล้วยไม้ลิ้นมังกรสีชมพู (Habenaria rhodochela) และบีโกเนียสีขาว
(Begonia sp.) ขึ้นอยู่หน้าน้ำตกชั้นที่ 5 เป็นสัญลักษณ์ความงามที่พบได้เฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมของทุกปีเท่านั้น

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาเช้าก่อน 9.00น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ต้นฤดูฝนปลายกรกฎาคมถึงต้นสิงหาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : หน้าน้ำตกหมันแดง ชั้นที่ 5 และบริเวณลานหินแตก

เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.พิษณุโลก ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 เลี้ยวซ้ายที่บ้านแยง กิโลเมตรที่ 68 เข้าสู่ทางหลวง หมายเลข 2013 ไปถึง อ.นครไทย เลี้ยวขวาทางหลวงหมายเลข 2331 ถึงอุทยานฯ ภูหินร่องกล้า
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานพิษณุโลก โทร. 055-252-742-3, 055-259-907

ชมกระเจียวบานในม่านฝนที่เทือกเขาพังเหย จ.ชัยภูมิ


ทุ่งกระเจียว สวยสุดแห่งปี มีได้เฉพาะช่วงฤดูฝน บนเทือกเขาพังเหยตั้งแต่เทพสถิต ป่าหินงามไปจนถึงไทรทองแหล่งใหม่ที่อยู่ไม่ไกล กระเจียวแถบเทือกเขาพังเหย จังหวัดชัยภูมิ นี้มีชื่อแท้จริงว่าบัวสวรรค์ (Curcuma alismatifolia) เป็นคนละพันธุ์กับกระเจียวชนิดอื่น แต่จัดอยู่ในตระกูลเดียวกัน เดิมทีพบมากเฉพาะที่อำเภอเทพสถิต ป่าหินงาม แต่แหล่งใหม่ที่พบได้คือ อุทยานฯไทรทอง บนแนวเทือกเขาพังเหยส่วนบน พบว่ามีทุ่งกระเจียว สวยไม่แพ้กันซ่อนอยู่ สีสดงดงามและดอกใหญ่กว่า โดยเฉพาะวันที่สายหมอกปกคลุมให้ภาพสวยงามน่าอัศจรรย์

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเวลาเช้าก่อน 09.00 น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด: ต้นฤดูฝนปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นกรกฎาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: จุดชมดอกกระเจียว เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าหินงาม

เส้นทางการเดินทาง :จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถึง จ.สระบุรี ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 21 ถึง อ.ชัยบาดาล แยกขวาทางหลวงหมายเลข 205 ถึง อ.เทพสถิต แยกซ้ายทางหลวงหมายเลข 2354 ถึง อุทยานฯ ป่าหินงาม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :ติดต่อที่ ททท.สำนักงานนครราชสีมา โทร.044- 213-030,044-213-666

เดือนสิงหาคม

ปีนภูดูทะเลดอกไม้ในป่าสน บนภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์

ป่าสนภูสอยดาวได้ชื่อว่าสวยสุดในเมืองไทย โดยเฉพาะในช่วงกลางฤดูฝนที่ทุ่งดอกหงอนนาคสีม่วงบานสะพรั่งทั้งภู ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นภูเขาอีกลูกหนึ่งซึ่งท้าทายนักเดินทาง ให้ปีนขึ้นไปเป็นผู้พิชิต ด้วยระยะเวลาผจญภัยไม่น้อยกว่า 4-5 ชั่วโมง รางวัลชีวิตที่ได้ คือ ภาพความสวยงามของทุ่งหญ้า และป่าสนสามใบมุมมองสวยงามแปลกตากว่าที่ใด ในรอบปีมีวันเวลา ที่สวยที่สุดคือช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งดอกหงอนนาค (Murdannia gigantia) จะออกดอกสะพรั่งท่ามกลางป่าสนที่มักปกคลุมไปด้วยสายหมอก จนได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดของความโรแมนติกมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาเช้าก่อน 09.00 น
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : เดือนสิงหาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : ลานป่าสนบริเวณที่ตั้งแคมป์ภูสอยดาว

เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.อุตรดิตถ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1047 ถึง อ.น้ำปาด ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 1239 และ 1268 ถึง อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานแพร่ โทร.054-521-118-9,054-521-127

ตระการตาลานผีเสื้อ ในป่าแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

ผืนป่าแก่งกระจาน คือที่รวมพืชพันธุ์สัตว์ป่านานาชนิด รวมทั้งผีเสื้อกว่า 200 ชนิด ที่พบได้มากมายในช่วงฤดูร้อนตามโป่งต่างๆ ผืนป่าแก่งกระจาน ได้ชื่อว่าเป็นป่าดงดิบผืนกว้างใหญ่ที่สุดของภาคกลาง อุดมสมบูรณ์ด้วยความหลากหลายทางชีวภาพทั้งพืชและสัตว์ ทุกฤดูร้อนเมื่ออากาศร้อนจัดจนแหล่งน้ำเริ่มแห้งเหือด บรรดาเหล่าผีเสื้อนานาชนิดจะพากันมาหากินเกลือตามดินโป่งหรือแหล่งน้ำแฉะๆมากมาย และบางครั้งอาจพบการอพยพของฝูงผีเสื้อนับแสนตัวอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญมีนกหายาก เช่น นกกะลิงเขียดหางหนาม เป็นต้น

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเช้าแสงแดดอ่อน ราว 0800-10.00 น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ปลายเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : กม.10-18ขึ้นเขาพะเนินทุ่ง และหลังแคมป์บ้านกร่าง

เส้นทางการเดินทาง : จากกรุงเทพฯ เดินทางโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 35 ต่อด้วยหมายเลข 4 ถึง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 3499 สู่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ต่อด้วยเส้นทางภายในอุทยานฯ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานเพชรบุรี โทร.032-471-005-6

เดือนกันยายน

ยลโลกสีเขียวป่าดึกดำบรรพ์โลกล้านปีดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

ป่าดึกดำบรรพ์ย้อนยุคราวป่าโลกล้านปีสวยที่สุด คือ ป่าอ่างกาหลวง บนยอดดอยอินทนนท์ ฤดูฝนบนนี้ คือ วันมหัศจรรย์ธรรมชาติที่คุณต้องไปดู ยอดดอยอินทนนท์ สูงที่สุดในเมืองไทยถึง 2,565 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นแหล่งรวมของพืชพันธุ์และสัตว์ป่าหายากหลายชนิด โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนซึ่งผืนป่าอ่างกาหลวงฉ่ำเย็นไปด้วยสายหมอก จนตามต้นไม้มีมอสเฟิร์น ขึ้นเกาะอยู่ทั่วไป จึงเป็นที่มาเรียกขานว่าป่าดึกดำบรรพ์อันเป็นที่อยู่ของจิ้งจกน้ำ สัตว์เลื้อยคลานหายากรวมทั้งเป็นแหล่งที่พบนกกินปลีหางยาวเขียว และกุหลาบพันปี (Rhododendron arboretum sub.delavayi)อีกด้วย

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาเช้าก่อน 9.00 น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : เดือนกันยายน
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : ทางเดินศึกษาธรรมชาติอ่างกาหลวงกิ่วแม่ปาน

เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.เชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 ถึง อ.จอมทอง แยกขวาทางหลวงหมายเลข 1009 สู่ยอดดอยอินทนนท์ ระยะทาง 48 กิโลเมตร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานเชียงใหม่โทร.053-248-604,053-248-607

ไปเฝ้าดูเหยี่ยวอพยพนับแสนตัว จ.ชุมพร

ฤดูอพยพของฝูงเหยี่ยวนั้นเป็นความลี้ลับ ว่าพวกมันเดินทางกลับมายังจุดหมายเดิมอย่างแม่นยำทุกปีได้อย่างไร และแหล่งอัศจรรย์นั้นอยู่ที่จังหวัดชุมพร ฤดูอพยพของฝูงนกนานาชนิดจากซีกโลกทางเหนือ เช่น ไซบีเรีย และประเทศจีน มักจะเริ่มต้นราวเดือนกันยายนของทุกปี เป็นวัฎจักรของวงจรชีวิต ที่ดิ้นรนเพื่อการดำรงอยู่ของสายพันธุ์เมื่อฤดูหนาวมาเยือน ทุกปีฝูงเหยี่ยวอพยพ เช่น เหยี่ยวกิ้งก่าสีดำ เหยี่ยวต่างสี นกอินทรีเล็กและเหยี่ยว นานาชนิดจะพากันบินมาถึงจุดนี้ได้อย่างตรงเวลาน่าตื่นตา ตื่นใจนับแสนตัวตลอดฤดูอพยพ นอกจากนี้ ที่เขาเรดาร์ อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ดี ในการเฝ้าดูเหยี่ยวอพยพอีกด้วย
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาเช้าตรู่ถึง 10.00 น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : กลางกันยายนถึงเดือนตุลาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร และเขาเรดาร์ อ.บางสะพานน้อย

เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.ชุมพร ใช้ทางหลวงหมายเลข 4001 และ ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 4098 ถึงหาดทรายรี ระยะทางราว20 กิโลเมตร ถึงจุดชมเหยี่ยว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานชุมพร โทร.077-50-1831-2,077-502-775-6

เดือนตุลาคม

ที่สุดในเมืองไทย สุดยอดผจญภัย ไปล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง จ.น่าน

ลำน้ำว้าท้าทายนักผจญภัยให้ไปสัมผัสผืนป่ากว้างใหญ่ ลำน้ำสวยใสเหลือแต่ใจว่า คุณพร้อมหรือไม่ เพราะแก่งที่นี่ได้ชื่อว่าโหดสุดๆ แห่งหนึ่งของเมืองไทย จากยอดภูแวสูงใหญ่ และผืนป่าดิบตอนบนของจังหวัดน่าน นั่นคือต้นกำเนิดของแม่น้ำว้า ต้นน้ำสำคัญสายหนึ่งของแม่น้ำน่าน สายน้ำแห่งนี้มีเรื่องราวผจญภัยให้ผู้คนร่วมกันบันทึกความทรงจำ นั่นคือ การล่องแก่งน้ำว้าที่ได้ชื่อว่า แก่งโหดสุดในเมืองไทย จากบ้านสบมาง อำเภอบ่อเกลือ ระยะทาง 100 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน นี่คือสุดยอดความประทับใจที่คุณจะไม่มีวันลืมในชีวิต

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเช้าและบ่ายในแต่ละวัน
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : เดือนตุลาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : แก่งผีป่า ผารถเมล์

เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.น่าน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1169 และ 1081 ถึงบ้านนาขวางมีทางแยกขวาไปบ้านสบมาง จุดเริ่มต้นล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :ติดต่อที่ ททท.สำนักงานแพร่ โทร.054- 521-118-9,054-521-127

อาณาจักรแห่งสีสัน ลานดอกไม้ผาแต้ม จ.อุบลราชธานี

บนลานหินทรายผาแต้มเมื่อปลายฤดูฝนมาถึง เหนือลานหินที่ชุ่มฉ่ำจะกลับกลายเป็นอาณาจักรดอกไม้สีทองละลานตาได้อย่างน่าประหลาด นี่คือถิ่นไม้กินแมลงซึ่งแผ่อาณาจักรของมันครอบคลุมไปทั่วตามลานหินน้อยใหญ่ในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม กลไกธรรมชาติปลุกชีวิตของไม้กินแมลงเหล่านี้ ทั้งสร้อยสุวรรณา (Utricularia bifida) รวมถึงดอกไม้กินแมลงชนิดอื่นให้ออกดอกสวยงาม เพื่อล่อแมลงมาเป็นเหยื่อให้มันดักจับกินได้อย่างน่าทึ่ง ทะเลแห่งสีสันมวลดอกไม้นี้จะมีอยู่ที่ลานหินเหนือน้ำตกสร้อยสวรรค์ มากที่สุดในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี ไม่มีที่ใดงดงามเท่า

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาเช้าก่อน 09.00 น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : เดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : ลานหินน้ำตกสร้อยสวรรค์

เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.อุบลราชธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 217 ถึง อ.พิบูลมังสาหาร ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 2222 ถึง อ.โขงเจียม แยกทางหลวง 2112 สู่อุทยานชาติผาแต้ม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานอุบลราชธานี โทร.045-243-770,045-250-714

เดือนพฤจิกายน

ดอยแม่อูคอ ขุนเขาแห่งทะเลดอกไม้สีทอง จ.แม่ฮ่องสอน

เมื่อลมหนาวพัดมา นั่นเป็นสัญญาณจากธรรมชาติว่า ดอกบัวตองดอยแม่อูคอ จะพากันออกดอกสะพรั่งทั้งดอย ดั่งทะเลดอกไม้สีทอง ดอยแม่อูคอ อยู่ในเขตอำเภอขุนยวม เป็นแหล่งของดอกบัวตองที่สวยงามที่สุดในเมืองไทย พันธุ์ไม้ชนิดนี้เดิมเป็นไม้พื้นเมืองของอเมริกาใต้ แต่นำมาปลูกในเมืองไทยจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดัง เวลาที่สวยงามที่สุดของการดูดอกบัวตองนั้น ควรดูในตอนเช้าเมื่อแสงแรกของวันสาดส่อง เพราะสีทองของดอกจะเปล่งประกายเป็นทองมากกว่าเวลาอื่นใด และใกล้ๆ กันก็ยังมีน้ำตกแม่สุรินทร์น้ำตกสูงใหญ่ให้คุณเที่ยวชมอีกด้วย

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาเช้าราว 07.00 - 08.00 น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : กลางเดือนพฤศจิกายน
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : จุดชมวิวดอยแม่อูคอ

เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.แม่ฮ่องสอน ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 ถึง อ.ขุนยวม แล้วแยกซ้ายทางหลวงหมายเลข 1263 เลี้ยวซ้ายทางย่อยไปดอยแม่อูคอ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอนโทร. 053-612-982-3

พลับพลึงธารบานเร้นลับ ที่ผืนป่าคลองนาคา จ.ระนอง

พลับพลึงธารคือที่สุดของความเร้นลับในผืนป่าคลองนาคา เดือนพฤศจิกายนของทุกปี ทั้งคลองนาคาจะเต็มไปด้วยดอกไม้หายากชนิดนี้ ผืนป่าคลองนาคา กิ่งอำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง เป็นป่าดงดิบผืนใหญ่ที่ต่อเนื่องกับป่าเขาสกและป่าคลองแสงในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี และป่าศรีพังงา อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา จนกลายเป็นผืนป่าที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรภาคใต้ ความลี้ลับของป่าดงดิบผืนนี้มีอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือความงามของดอกพลับพลึงธาร
(Crinum thaianum) ไม้น้ำหายากซึ่งพบที่เดียวในเมืองไทยที่คลองนาคา และเดือนพฤศจิกายนคือเดือนที่พลับพลึงธารบานมากที่สุด

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาเช้าก่อน 09.00 น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : เดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : จุดชมพลับพลึงธารคลองนาคา

เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.ชุมพร ใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ถึง อ.หลังสวนแยกทางหลวงหมายเลข 4006 แล้วมาเจอกับทางหลวงหมายเลข 4 อีกครั้งที่บ้านราชกรูด มุ่งหน้าสู่ อ.กะเปอร์และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานชุมพร โทร.077-501-831-2,077-502-775-6

เดือนธันวาคม

ท่องป่าปิดชมเมเปิ้ลเปลี่ยนสีที่ภูกระดึง จ.เลย

เมเปิ้ลเปลี่ยนสีอาจมีอยู่หลายแห่งในเมืองไทย แต่จะหาที่ไหนสวยงามไปกว่าเมเปิ้ลในป่าปิดของ
ภูกระดึงนั้นไม่มี อาณาเขตป่าปิดด้านทิศเหนือบนภูกระดึง นอกจากเป็นเขตป่าอนุรักษ์แล้ว ยังเป็นที่รวมของลำธารเล็กๆ หลายสายซึ่งไหลผ่านผืนป่าแห่งนี้ ก่อเกิดเป็นน้ำตกน้อยใหญ่สวยงามหลายแห่ง และริมลำธารเหล่าเป็นถิ่นของต้นเมเปิ้ล ที่ทุกฤดูหนาวจะพากันเปลี่ยนสีใบเป็นสีแดงสด บ้างก็ร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน เป็นภาพที่งดงามที่สุด โดยเฉพาะต้นเมเปิ้ลที่อยู่หน้าน้ำตกขุนพอง ซึ่งต้องขออนุญาตก่อนเข้าไปเที่ยวชม

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลาเช้าราว 08.00 - 10.00 น
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : เดือนธันวาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : บริเวณน้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกผาน้ำผ่าน้ำตกขุนพอง

เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.เลย ใช้ทางหลวงหมายเลข 201 ผ่าน อ.วังสะพุง ถึง อ.ภูกระดึง แยกขวาเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เดินเท้าขึ้นภูใช้เวลาราว 3-4 ชั่วโมง ควรมีเวลา 1 วัน ในการเที่ยวป่าปิด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานเลย โทร.042ข812-812

พายเรือลอดถ้ำ ข้ามสองอำเภอ ที่ถ้ำเจ็ดคต แหล่งผจญภัยแห่งใหม่ จ.สตูล

ถ้ำขนาดใหญ่ แหล่งผจญภัยด้วยการพายเรือลอดถ้ำที่โค้งถึง เจ็ดโค้ง เจ็ดคต งดงามด้วยหินงอกหินย้อยและหาดทราย กลายเป็นที่เที่ยวแห่งใหม่ของเมืองสตูล จังหวัดใต้สุดด้านทะเลอันดามัน ที่รู้จักกันดี คือ หมู่เกาะตะรุเตา แต่ที่อำเภอละงู และกิ่งอำเภอมะนัง มีถ้ำใหญ่ น้ำลอดได้อยู่แห่งหนึ่งคือ ถ้ำเจ็ดคต ปากถ้ำอยู่กิ่ง อำเภอมะนัง ส่วนหลังถ้ำอยู่ที่อำเภอละงู ภายในมีน้ำไหลลอดคดโค้ง ท้าทายให้ นักผจญภัยพายเรือลอดถ้ำ และชมความสวยงามของ หินงอกหินย้อย ถ้าใครพายลอดไปได้ ก็ต้องถือว่าสุดยอดเพราะพายเรือลอดถ้ำข้ามมาตั้ง 2 อำเภอ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลา 11.00 - 12.00 น
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : เดือนธันวาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : ปากถ้ำทั้งสองด้าน

เส้นทางการเดินทาง : จาก จ.สตูล ใช้ทางหลวงหมายเลข 406 และ 416 มุ่งหน้าสู่ อ.ละงู แล้วแยกขวาไปน้ำตกวังสายทองและถ้ำภูผาเพชร ก่อนถึงถ้ำภูผาเพชร มีทางแยกซ้ายไปถ้ำเจ็ดคตรวมระยะทางราว 70 กิโลเมตร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อที่ ททท.สำนักงานตรังโทร.075-211-085































































1 ความคิดเห็น:

นางสาว มะลิวัลย โทพิลา กล่าวว่า...

สวยจังอยากไปบ้าง